จอม เชื่อว่าถ้าเขาสามารถกลบเสียงปืนได้ด้วยเสียงปืนในมือที่ดังกว่า ความสงบจะเกิดขึ้นทันที แต่ปัญหาอยู่ที่ปืนกระบอกอื่น ๆ อีกมาก ก็พร้อมจะกลบเสียงปืนของเขาเช่นกัน สุดท้ายก็อยู่ที่ว่า......มือใครจะเหนือกว่ากัน
ปีพุทธศักราช 2499 จอม (ออฟ ชนะพล), เฉียด (น้ำ รพีภัทร), บวร (ธันน์ ธนากร) กำลังใกล้จะจบจากเทคนิกช่างกล แต่บังเอิญว่าทั้งสามดันไปแอบดูการทำข้อตกลงของสามก๊กใหญ่ในพระนครยุคนั้น อันมีแก๊งของ สัว (ศตวรรษ ดุลยวิจิตร), บ้วน (สุรวุฑ ไหมกัน), เฮง (เฉลิมพร พุ่มพันธ์วงศ์) การตกลงในครั้งนั้นไม่เป็นผล ขณะที่สามแก๊งเข้าต่อยตีถล่มกันอย่างเอาเป็นเอาตาย บวรหนีรอดไปกับบ้วนผู้เป็นพ่อ ส่วนจอมกับเฉียดถูกจับสอบสวนโดยสัว เหตุการณ์ในครั้งนั้นสัวประทับใจกับการมีใจเป็นนักเลงของจอม ทำให้สัวยอมปล่อยจอมกับเฉียดไป บอกว่าถ้าจอมออกจากโรงเรียนให้มาทำงานกับตน
จอม, เฉียด, บวร ใช้ชีวิตนักเรียนหัวไม้ จอมสนิทกับ ลุงแบน (สามารถ พยัคฆ์อรุณ) คนขายยาปาหี่ข้างถนน กับ บุญตา (กวิตา รอดเกิด) หลานสาว บุญตาแอบชอบจอม แต่จอมไม่สนใจเพราะชอบอยู่กับ พรพรรณ (ณัฐชา นวลแจ่ม) นักเรียนพาณิชย์ปีสุดท้าย ผู้หลงใหลอยู่กับแสงสีและชื่อเสียงเงินทอง พรพรรณไม่สนใจจอมนัก เพราะจอมมีฐานะไม่ค่อยดี เธอกลับไปสนใจบวรซึ่งเป็นลูกเถ้าแก่บ้วน
วันหนึ่งขณะที่ ลุงแบน กับ บุญตา กำลังเล่นปาหี่ขายยาอยู่ข้างถนน รถของสัวก็มายางแตกอยู่ไม่ไกลนัก ระหว่างรอเปลี่ยนยาง สัวก็มายืนดูปาหี่ลุงแบน สัวจำได้ว่าลุงแบนคือ เปี๊ยก ซัมมิท นักเลงรุ่นเก่าที่เคยมีคดีปล้นทองคำแท่งแล้วก็คดีก็เงียบหายไป พร้อมกับทองแท่งจำนวนหนึ่ง ไม่มีใครรู้ว่าทองเหล่านั้นจมหายไปกับสายน้ำพร้อมกับ เวิ้ง นาครเกษม (กษาปณ์ จำปาดิบ) สหายร่วมปล้นของลุงแบนหรือไม่
ปาหี่ถึงช่วงปล่อยงู เกิดอุบัติเหตุงูหลุดงูพิษพุ่งเข้าหาสัว แต่ว่าจอมช่วยจับงูเอาไว้ได้ เป็นอีกครั้งที่สัวชวนจอมไปทำงานด้วย ไม่มีใครรู้ว่างูที่หลุดเป็น เพราะความตั้งใจของลุงแบน เพราะมีเรื่องราวแต่หนหลังกันมากับสัว สัวมองลุงแบนอย่างดูถูก แล้วก็นั่งรถหรูของตนเองจากไป