เรื่องราวของ เหลิ่งเจี๋ย ผู้อำนวยการสถานีตำรวจ และ จางเจิ้งหยาง ตำรวจนอกเครื่องแบบ และตำรวจคนอื่น ๆ ของสถานีตำรวจที่ต่อสู้ด้วยไหวพริบและความกล้าหาญ กล้าเสียสละต่อหน้ากลุ่มอาชญากรใต้ดิน ในขณะเดียวกันก็เสริมด้วยการบรรยายอารมณ์ เช่น มิตรภาพ ความรักใคร่ในครอบครัวและความรัก ทำให้ภาพลักษณ์ของตำรวจสันติบาลที่ยืนหยัดยึดมั่นในยามคับขันนั้นได้แตกต่างจากคนทั่วไป ส่งต่อพลังบวกของการผดุงความยุติธรรมและยึดมั่นในกฎหมายสู่สังคม ผ่านการนำเสนออาชญากรรมของกองกำลังชั่วร้ายที่คุกคามความสงบเรียบร้อยของสังคมและเป็นอันตรายต่อผู้คนแสดงให้เห็นถึงความจำเป็นและความแน่วแน่ของรัฐบาลและประเทศในการรณรงค์เพื่อต่อต้านพวกอันธพาลและอบายมุข เป็นการแสดงออกถึงแนวคิดของการให้ความสำคัญกับผู้คนเป็นอันดับแรก และความจริงที่ว่าความยุติธรรมย่อมชนะความชั่วร้ายดำเนินการตามประเพณีอันรุ่งโรจน์ของรัฐบาลของเราเพื่อรักษาความปลอดภัยและความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนตลอดเวลา ท้ายสุดด้วยการแสดงบทบาทต่าง ๆ ของตัวละครด้านบวกและด้านลบเป็นการถ่ายทอดค่านิยม ศีลธรรม และโลกทัศน์ที่ถูกต้องแก่อนุชนรุ่นหลังว่าในโลกนี้ไม่มีทางลัดสู่ความสำเร็จ